การเยียวยาธรรมชาติเพื่อบรรเทาอาการไอในสตรีมีครรภ์
สตรีมีครรภ์จำนวนมากรีบไปพบแพทย์เพื่อรับยาเมื่อมีอาการไอ นี้ค่อนข้างสมเหตุสมผลเพราะพวกเขาไม่ต้องการกินยาแก้ไออย่างฟุ่มเฟือย เหตุผลก็คือ มีความเสี่ยงมากหากพวกเขาทานยาแก้ไอที่ไม่ได้รับใบสั่งยาจากแพทย์ อย่างไรก็ตามคุณควรเลื่อนการไปพบแพทย์ก่อน หากคุณมีอาการไอร่วมกับเป็นหวัด ให้ลองใช้วิธีธรรมชาติเพื่อบรรเทาอาการเสียก่อน สูตรต่อไปนี้ปลอดภัยสำหรับการบริโภคเมื่อตั้งครรภ์
1. ขิงเวดัง
คุณต้องเคยได้ยินว่าขิงเป็นยาระงับอาการไอ วิธีนี้เหมาะสมมาก เพราะขิงสามารถกำจัดแบคทีเรียที่ก่อให้เกิดอาการไอในลำคอได้ แค่คุณไม่ควรกินขิงแดงมากเกินไป เพียงไม่กี่จิบ
สาเหตุที่ขิงทำให้ท้องร้อน เกรงว่าจะส่งผลเสียต่อพัฒนาการของทารกในครรภ์ เพื่อไม่ให้ร้อนเกินไป คุณสามารถทำขิงแดงโดยใช้ขิงไม่มากก็ได้
2. เวดัง เจอรุก
นอกจากขิง wedang ส้ม wedang ยังถือว่าเป็นยาแก้ไอที่มีประสิทธิภาพและปลอดภัยสำหรับหญิงตั้งครรภ์ ใช้เป็นเครื่องดื่มก็ได้
ร่างกายอบอุ่น จริงๆ แล้ว ส้มไม่สามารถใช้เป็นส้มตำได้เท่านั้น คุณแม่สามารถใช้มะนาวรักษาอาการไอได้
3. เคนคูร์
อีกสูตรหนึ่งสำหรับยาแก้ไอและยาเย็นสำหรับสตรีมีครรภ์คือการใช้เคนเคอร์ ขูด kencur แล้วบีบด้วยน้ำอุ่น เพิ่มน้ำตาลเล็กน้อยแล้วดื่มวันละสองครั้ง
คุณจะลองยาแก้ไอธรรมชาติชนิดใด ไม่ว่าคุณจะอยากลองใช้ยาชนิดใด อาการไอสามารถรักษาให้หายขาดได้โดยการพักผ่อนให้มากขึ้น อาการไอสามารถหายไปได้เองเช่นเดียวกับไข้ ตามเงื่อนไข คุณต้องพักผ่อนเยอะๆ เพื่อให้ระบบภูมิคุ้มกันแข็งแรงเพียงพอ
กำจัดแบคทีเรียที่ทำให้เกิดอาการไอ
ไปพบแพทย์เมื่อใด
เวลาไอจะมีแรงกดทับที่ท้อง ถ้าไอรุนแรง ความดันอาจขึ้นบ่อยและรุนแรงขึ้น นี่คือสิ่งที่ผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพกังวล
ให้กับสตรีมีครรภ์ หากการเยียวยาธรรมชาติตามใบสั่งแพทย์ไม่สามารถหยุดอาการไอได้ ขั้นตอนต่อไปคือไปพบแพทย์
แพทย์มักจะให้ยาปฏิชีวนะ นี่เป็นสิ่งจำเป็นในการขับแบคทีเรียในลำคอที่ทำให้เกิดอาการไอ คุณไม่จำเป็นต้องกังวลเพราะแพทย์จะคำนึงถึงการให้ยากับสตรีมีครรภ์เสมอ แน่นอนว่าไม่ใช่ยาที่สามารถทำร้ายทารกในครรภ์ได้
เพื่อให้แน่ใจว่าอย่าเสพยาโดยไม่ตั้งใจโดยไม่ได้รับใบสั่งยาจากแพทย์ สาเหตุคือ ยาแก้ไอที่ไม่ถูกต้องอาจทำให้มดลูกหดรัดตัว ส่งผลให้แท้งได้ นอกจากนี้ยายังสามารถส่งผลต่อการพัฒนาสมองของทารกในครรภ์ได้ ดังนั้น ควรปรึกษาแพทย์ก่อนเพื่อรับยาแก้ไอที่ปลอดภัยสำหรับการบริโภค